วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

สายพันธุ์แมวไทย

สายพันธุ์แมวไทย
มวไทยเป็นแมวพันธุ์แท้ที่สืบเชื้อสายมาจากแมวโบราณ ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นแมวพันธุ์ขนสั้นที่สวยสง่าที่สุดในโลกและแมวไทยยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก น่าเอ็นดู มีเสน่ห์ เป็นที่นิยมกันทั่วโลกอีกด้วย แต่คนไทยน้อยคนนักที่จะรู้ว่าแมวพันธุ์ไทยแท้มีรูปร่าง หน้าตาเป็นอย่างไร คนไทยส่วนใหญ่ต่างเข้าใจว่าแมวไทย ที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไปนั้นคือ แมวพันธุ์ไทยแท้ทุกตัว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นแมวลูกผสมเกือบทั้งสิ้นซึ่งแมวไทยมีทั้งหมด พันธุ์ได้แก่ 
          

วิเชียรมาศ

       แมววิเชียรมาศหรือแมวแต้มสีครั่ง(SealPoint)เป็นแมวไทยที่ชาวต่างประเทศรู้จักในนามของ
   ไซแอมมีสแคต(SiameseCat)เป็นแมวที่มีชื่อเสียงและนิยมเลี้ยงแพร่หลายในต่างประเทศ
   คนไทยในสมัยโบราณมักเลี้ยงไว้ในราชสำนักหรือตามบ้านเจ้านาย ชาวบ้านธรรมดาไม่มีโอกาส
   ได้เลี้ยงเพราะถือว่าเป็นแมวที่นำโชคลาภ ให้ประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
  
 ลักษณะของแมววิเชียรมาศ
   ลำตัวและหาง : แมววิเชียรมาศมีรูปร่างขนาดปานกลาง(ขนาดพอๆ กับแมวขนสั้นทั่วไป) ร่างกาย
   ได้สัดส่วนเหมาะสม สะโอดสะองอ้อนแอ้นลำตัวยาวคอยาวระหงขนยาวบางได้ส่วน ขาหลังยาวกว่าขาหน้าเล็กน้อยทำให้เวลาเดินส่วนหลังลาดเอียง
   ขึ้นเล็กน้อยเวลาเคลื่อนไหวจะเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ รูปเท้าเรียวเล็กและฝ่าเท้าอวบ เมื่อมองจากด้านบนทุกส่วนของร่างกายต้องไม่กว้างกว่าซี่โครง
   และซี่โคร จะต้องไม่บานจนกว้างกว่าไหล่ หางยาวเรียวความยาวของหางควรเท่ากับระยะวัดจากโคนไปยังจุดที่คอต่อกับไหล่ ปลายหางจะต้องชี้ตรง
   หัวและหู : หัวยาวเป็นรูปลิ่มหรือสามเหลี่ยมส่วนกว้างของลิ่มเป็นที่ตั้งของหู ๒ ข้างซึ่งอยู่เหนือมุมขากรรไกรส่วนแคบคือจมูกมีลักษณะเป็นรูปลิ่ม
   ปลายตัด ความยาวของหัวควรเท่ากับ ๑ ๑/๓ของความกว้างที่ส่วนกว้างที่สุดของลิ่ม(ส่วนที่ตั้งอยู่ของหลังหู)กระโหลกแบนส่วนหลังของกระโหลก
   ตั้งอยู่หลังหูกระดูกบริเวณใต้ตาจะต้องไม่แคบคางอยู่ในแนวเดียวกับขอบจมูกแนวที่ลากจากกึ่งกลางหน้าผากไปยังจมูกควรจะเป็นเส้นตรง หูใหญ่
   เปิดกว้าง ฐานมีขนอยู่ภายในเพียงเล็กน้อยเน้นส่วนของลิ่มแต่ไม่แผ่แบบหูลา
    ฟันล่างและฟันบน : ขบกันเกือบเป็นเส้นตรง ไม่มีลักษณะของริมฝีปากยื่นล้ำคางมาก
    ตา : สีฟ้าเป็นประกาย แจ่มใส ดวงตาเรียวชี้ไปทางปลายจมูก มุมตาด้านล่างต่ำกว่ามุมตา ด้านบนสีของตาดำเป็นสีนิลคราม ในส่วนลึกของตา
   เมื่อสะท้อนออกมาเป็นสีน้ำเงิน
    ขน : ขนสั้นเรียบเป็นมันแนบกับลำตัว ละเอียดแน่นและนุ่มแต่ไม่ฟู
    สีลำตัว : ลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อนแกมเหลืองจางๆ (ฝรั่งเรียกสีเหมือนลูกกวางอ่อน) ไม่ใช่สีครีมหรือสีงาช้างขณะเป็นลูกแมวจะมีสีลำตัวอ่อนกว่า
  และจะมีสีเข้มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
    แต้ม :  แต้มสีน้ำตาลไหม้หรือสีครั่งบนตัว ๙ แห่ง คือ หู หน้า ขาหางและอวัยวะเพศ แต้มที่หน้าเหมือนหน้ากาจะต้องเชื่อมระหว่างหูทั้ง ๒ ข้าง 

  
ยกเว้นในลูกแมว แต้มที่หน้าจะอยู่เพียงที่หน้าเท่านั้นไม่เลยไปถึงลำคอหรือบนหัวที่บริเวณหน้าหู บนหัวด้านล่างของแต้มต้องเป็นสีเดียวกับลำตัว
  แต้มที่หางต้องเป็นสีเข้มตลอด ไม่มีรอยจุดสีขาว หรือเป็นวงสีจาง และต้องไม่มีลายทางที่ต้นขาหรือเอว
    สภาพทั่วไป  : สภาพร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป ควรมีหุ่นเป็นแมวนักกล้าม
    ลักษณะด้อย  : จุดสีเข้มบริเวณท้อง ยกเว้นแมวที่เพิ่งเลี้ยงลูกมา หางด้วนและหางขอดหักมาก ตาบอด หรืออวัยวะไม่ครบบริบูรณ์
    นิสัย ฉลาด ปราดเปรียว ร่าเริง ซุกซน ชอบสนุก ฝึกหัดง่ายรักบ้าน รักเจ้าของ ช่างประจบ เป็นตัวของตัวเองฝรั่งได้มีการคัดเลือกและผสม
   แมววิเชียรมาศกับแมวไทยอื่นๆได้แมวที่มีสีขนและแต้มสีต่างๆเช่น แต้มสีฟ้าแต้มสีน้ำตาล แต้มสีกลีบบัว และได้จัดแมวเหล่านี้ไว้ในกลุ่มแมวไทยด้วย

ขาวมณี

แมวขาวมณีหรือแมวขาวปลอด เป็นแมวขนสีขาวปลอดทั้งตัว

ถึงแม้ว่าแมวพันธุ์นี้จะไม่ได้รวมอยู่ในตำราแมวไทยโบราณ
แต่วงการผู้เลี้ยงแมวในประเทศไทยส่วนใหญ่ยอมรับว่าแมวขาวมณี
 เป็นแมวไทยพันธุ์แท้อีกพันธุ์หนึ่งด้วย
   ลักษณะของแมวขาวมณี
   ลำตัวและหาง : รูปร่างขนาดปานกลาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว หางยาวปลายแหลมชี้ตรง
    หูและหัว : หัวคล้ายรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่แบน จมูกสั้น หูใหญ่ตั้งสูงเด่น
    ตา : ตามี ๒ สี คือสีฟ้าหรือสีเหลืองอำพันหรืออีกข้างหนึ่งสีฟ้า อีกข้างหนึ่งสีเหลืองอำพัน
    ขน  : ขนสั้นแน่นอ่อนนุ่มสีลำตัว เป็นสีขาวตลอดลำตัว
    นิสัย : นิสัย เชื่อง รักความสะอาด เหมาะที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา

สีสวาท

                      แมวสีสวาทหรือแมวโคราช (มาจากสีลูกสวาท ซึ่งเมื่อสดจะมีสีเทาแก่
                                                                 ลักษณะของแมวสีสวาท
ลำตัวและหาง : รูปร่างขนาดปานกลาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว หางยาวปลายแหลมชี้ตรง
หัวและหู : หัวคล้ายรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่แบน จมูกสั้น หูใหญ่ตั้งสูงเด่น
ตา : ตามี ๒ สี คือสีฟ้าหรือสีเหลืองอำพันหรืออีกข้างหนึ่งสีฟ้า อีกข้างหนึ่งสีเหลืองอำพัน
  ขน : ขนสั้นแน่นอ่อนนุ่มสีลำตัว เป็นสีขาวตลอดลำตัว
  นิสัย เชื่อง รักความสะอาด เหมาะที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา



ศุภลักษณ์ 
   
       แมวศุภลักษณ์ หรือ แมวทองแดง ชาวต่างชาติเรียกว่า แมวพม่า (Burmese  Cat) เนื่องจากใน ปี พ.ศ.๒๔๗๓ ดร.โจเซฟ ซี.ทอมป์สัน ชาวอเมริกัน ได้นำลูกแมวสีน้ำตาลอ่อนตัวหนึ่งจากพม่ากลับไปที่ซานฟานซิสโก และนำไปจดทะเบียนที่ประเทศอังกฤษ และตั้งชื่อว่า แมวพม่าจนกลายเป็นแมวที่นิยมเลี้ยงอีกพันธุ์หนึ่งผู้ที่รู้เรื่องแมวไทยสันนิษฐานว่าแมวศุภลักษณ์หรือทองแดงนี้แท้จริงแล้วเป็นแมวไทย เนื่องจากมีโครงสร้างและลักษณะนิสัยเหมือนแมวไทยมาก
   แต่เดิมพม่าไม่ได้มีการเลี้ยงแมวทองแดง และไม่มีตำราเกี่ยวกับแมวทองแดงนี้ด้วย ส่วนของไทยได้มีการบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณกล่าวถึงแมวศุภลักษณ์ไว้ และเชื่อกันว่าเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ ๒ (พ.ศ.๒๓๑๐) ชาวไทยถูกกวาดต้อนไปพม่า และคงนำแมวทองแดงไปเลี้ยงด้วย แมวทองแดงจึงไปแพร่หลายและนิยมเลี้ยงในประเทศพม่าฝรั่งไปพบแมวทองแดงที่พม่าจึงเข้าใจว่าเป็นแมวพม่า
   



ลักษณะของศุภลักษณ์
   ลำตัวและหาง : รูปร่างขนาดปานกลาง สง่า ขายาวเรียว ฝ่าเท้าอวบนุ่ม หางตรงหัว กลมกว้างตา ตาออกสีเหลืองหรือสีเหลืองอำพัน
    ขน :ขนลำตัวมีสีน้ำตาลเข้มคล้ายทองแดง ส่วนหูและใบหน้าจะมีสีเข้มกว่าส่วนอื่นๆ หนวดมีสีเหมือนลวดทองแดง
    นิสัย : กระตือรือร้นอยู่ตลอดเวา อยากรู้อยากเห็น สนใจสิ่งรอบตัว รักอิสระ ชอบล่าเหยื่อเป็นพิเศษ ขี้เล่น ซุกซน
    ลักษณะด้อย  : สีขนอ่อน หางหงิกงอ ปลายหางคด มีแต้มสีขาวอยู่บริเวณหน้าอกหรือช่องท้อง ลายทางตามลำตัว โดยเฉพาะตามใบหน้า ขาและหาง


โกญจา
กนจา หรือ โกญจา  แมวชนิดนี้เป็นแมวสีดำสนิทตลอดทั้งตัว ขนสั้น ไม่มีสีอื่นใดปะปนเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีลักษณะเป็นขนเส้นเล็กละเอียดนุ่มและเรียบตรงทั้งลำตัว ส่วนหัวกลมแต่ไม่โต มีปากเรียวแหลม หูตั้ง นัยตาเป็นสีเหลืองอมเขียวหรือทองอ่อน อาจเปรียบได้กับดอกบวบแรกแย้มหรือทองดอกบวบ รูปร่างสะโอดสะองคล่องแคล่ว หางยาว ปลายหางแหลมตรง อุ้งเท้าทอดคล้ายเท้าสิงห์ มีความสง่างามขณะเคลื่อนไหว

แมวสายพันธุ์โกนจา มีลักษณะคล้ายกับแมวสายพันธุ์ต่างชาติอีกสายพันธุ์หนึ่ง คือ บอมเบย์


ลักษณะที่เป็นข้อเด่น


·         ลักษณะสีขน ขนสั้น สีดำตลอดทั้งตัว

·         ลักษณะของส่วนหัว รูปหัวกลมไม่ใหญ่มาก หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว

·         ลักษณะของนัยน์ตา นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม (สีเหลืองอมเขียว)

·         ลักษณะของหาง หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว

ลักษณะที่เป็นข้อด้อย


ขนยาวมากเกินไป ขนมีสีอื่นปะปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป ( เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี





ประวัติ

ประวัติแมว
          จากหลักฐานรูปปั้นแมว มัมมี่แมว และภาพเขียนผนังเกี่ยวกับแมวแล้ว เราเชื่อว่าได้มีการ
เลี้ยงแมวในอียิปต์ มาตั้งแต่โบราณกาล (ประมาณก่อนพุทธศักราช 2,600 ปี)อียิปต์เป็นชาติแรก
ที่ฝึกแมว 



         ซึ่งเดิมเป็นสัตว์ป่าให้เชื่อง และเลี้ยงแมวไว้ในบ้านเพื่อช่วยจับหนู ช่วยให้พีชพรรณ
ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ปราศจากหนูรบกวน เมื่อแมวอียิปต์ ถูกพาลงเรือสินค้าแล่นไปในทะเล
เมดิเตอร์เรนียน เพื่อให้ช่วยจับหนูในเรือ เมื่อเรือจอด แมวอาจเดินขึ้นจากเรือ เพื่อเดินหยียด
แข้งขา หรืออาจ แวะชมสิ่งน่าสนใจ จนลืมกลับลงเรือ แมวจึงแพร่พันธุ์ไป ในประเทศต่างๆทั่วโลก